Wednesday 2 May 2007

ทุนกู้ยืม นศ.

หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10644 รายงานว่า
-น.ศ.3แสนคนเฮได้กู้ กยศ.เปิดเทอมนี้ครม.ไฟเขียวแล้ว-หลังเลิกกองทุน"กรอ." "วิจิตร"จี้จัดสรรวงเงินมหา"ลัยทัน15พ.ค.เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือสำหรับนิสิตนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เคยกู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ซึ่งต่อมาภายหลัง ครม.มีมติให้ยุบรวม กรอ.เข้ากับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แล้ว ส่งผลทำให้นิสิตนักศึกษาจำนวนหนึ่งไม่สามารถกู้ยืม กยศ. ได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขรายได้ครอบครัวต้องไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวมีดังนี้ ผู้กู้ยืม กรอ.ที่มีคุณสมบัติตามประกาศ กยศ.เรื่องหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และคุณสมบัติผู้กู้ยืมเงินให้สามารถกู้ยืมแบบ กยศ.ได้ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ โดยให้คิดอัตราดอกเบี้ย การชำระเงินกู้ยืม รวมทั้งการติดตามหนี้ให้เป็นไปตามแบบ กยศ. ซึ่งนิสิตนักศึกษากลุ่มนี้จะมีประมาณ 158,762 คน "ส่วนผู้กู้ กรอ.ที่ไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของ กยศ. เนื่องจากครอบครัวมีรายได้เกิน 150,000 บาทต่อไป ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น เห็นควรให้ความช่วยเหลือในการกู้ยืม กยศ.ได้เป็นกรณีพิเศษ โดยนำหลักเกณฑ์และวิธีการกู้ยืมเงินแบบ กยศ.มาใช้ โดยอนุโลม แต่ให้กู้ยืมได้เฉพาะค่าเล่าเรียนจนจบหลักสูตร ตามขอบเขตการให้กู้ยืมเงินของ กยศ. สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระคืนให้เป็นไปตามแบบ กยศ. และให้สำนักงาน กยศ.ทำหน้าที่รับชำระหนี้เงินกู้ ซึ่งกลุ่มนี้มีประมาณ 163,748 คน" นายวิจิตรกล่าว และว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวก็เพื่อพิทักษ์สิทธิเด็กไม่ให้ถูกลิดรอน อันเนื่องมาจากมติ ครม.ที่ให้ยุบรวม กรอ.เข้ากับ กยศ.ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ครม.ไม่ได้พูดถึงข้อห่วงใยในเรื่องงบประมาณสนับสนุน เพราะกองทุน กยศ.มีงบประมาณเพียงพอ ซึ่งแต่ละปีใช้อยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนได้ตั้งข้อสังเกตในที่ประชุม ครม.ว่า กยศ.ควรต้องเร่งรัดการจัดสรรเงินให้กับสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียน นักศึกษากู้ยืมได้ทันเปิดภาคเรียน 1/2550 ซึ่งขณะนี้แต่ละสถานศึกษายังไม่ทราบวงเงินกู้ยืมที่จะได้รับ ดังนั้น อยากให้ทาง กยศ.ประกาศการจัดสรรวงเงินให้ได้ทันวันที่ 15 พฤษภาคมนายวิจิตรกล่าวด้วยว่า ตนจะประชุมร่วมกับผู้แทน กยศ. ผู้แทนนักเรียน นักศึกษาที่กู้ยืมเงิน กยศ.ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนภายในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการทบทวนเกณฑ์การกู้ยืมเงิน กยศ. เนื่องจากมีเสียงร้องเรียนเข้ามามากว่าควรจะขยายเงื่อนไขรายได้ต่อครอบครัวให้ขยับสูงขึ้นมากกว่า 150,000 บาท เนื่องจากผู้ปกครองบางรายมีบุตรหลายคน จึงเสนอขอให้ขยับวงเงินสูงขึ้นถึง 300,000 บาทต่อปี ซึ่งหลังจากที่ได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอขอทบทวนไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าควรจะปรับขยายเพดานรายได้ครอบครัวให้สูงขึ้น เพราะตามอัตราเดิมใช้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งไม่เข้ากับสภาวการณ์ค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน แต่จะขยับจำนวนเท่าใดนั้นต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพราะรัฐบาลในอดีตเคยให้ขยับขึ้นถึง 300,000 บาท จนรับภาระด้านงบประมาณไม่ไหว เนื่องจากคนที่ไม่จำเป็นก็มาใช้สิทธิกู้ เนื่องจากเป็นเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยต่ำมาก จนสุดท้ายต้องลดเพดานลงมาเป็น 150,000 บาทต่อปีเหมือนเดิม หน้า 26

No comments: